Chat with us, powered by LiveChat

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า มีวิธีและขั้นตอนยื่นคำขออย่างไร

PingPong Logo
PingPong
December 13, 2024

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า กระบวนการและวิธีการยื่นสำหรับเจ้าของธุรกิจ

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ออนไลน์

ในโลกของการทำธุรกิจ หรือการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามาบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ควรให้ความสนใจ เพราะจะส่งผลดีให้กับธุรกิจและภาพลักษณ์ที่ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังนั้นหากใครที่เพิ่งเริ่มหรือกำลังธุรกิจ มาทำความรู้จักกับการยื่นจดเครื่องหมายการค้า ความสำคัญและขั้นตอนวิธีการยื่นขอจดเครื่องหมายการค้ากัน

สารบัญบทความ

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) คืออะไร สำคัญอย่างไรกับธุรกิจ

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) คือ การนำโลโก้ ภาพถ่าย ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่ต้องการใช้ในธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่ ไปขึ้นทะเบียนเพื่อให้เจ้าของได้มีสิทธิ์ใช้เครื่องหมายการค้านั้น ๆ บนสินค้าหรือแพลตฟอร์มการขายแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งนี้เทรดมาร์คก็เป็นการจดทะเบียนเพื่อบ่งบอกว่าเครื่องหมายการค้านี้มีเจ้าของลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ผู้อื่นจะไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำหรือดัดแปลงได้ และยังเป็นการสร้าง Awareness หรือการรับรู้ของลูกค้าถึงการมีอยู่ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอจดทะเบียน

ในการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า มีเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียม ดังนี้

  • สำเนาบัตรประชาชนผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า
  • ต้นฉบับคำขอจดทะเบียน แบบ ก. 01
  • ไฟล์ภาพหรือชื่อเครื่องหมายทะเบียนการค้า ขนาด 5x5 เซนติเมตร ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500KB
  • หากจดทะเบียนในนามนิติบุคคล ให้เตรียมสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน
  • หากมอบให้ผู้อื่นทำเรื่องจดทะเบียนให้ ต้องมีหนังสือใบมอบอำนาจ ก. 18 และสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

อย่างไรก็ตาม ควรเตรียมไฟล์ภาพหรือชื่อที่ต้องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้มีขนาดพอดีหรืออยู่ภายใน 5x5 เซนติเมตร เนื่องจากหากภาพมีขนาดใหญ่เกินจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเซนติเมตรละ 200 บาท

วิธียื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า มีขั้นตอนวิธีอย่างไร

วิธีจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

วิธีจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นไม่ยุ่งยากและมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน สามารถขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ทางออนไลน์ หรือเดินทางไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเดินเรื่องก็ได้เช่นกัน โดยรายละเอียดยื่นขอจดทะเบียน มีดังนี้

  1. ยื่นตรวจสอบเครื่องหมายการค้าของตัวเองว่าเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าอื่นที่ได้ทำการจดทะเบียนแล้วหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่
  • ตรวจสอบด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา https://www.ipthailand.go.th/th/
  • เดินทางไปตรวจสอบกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาโดยตรง โดยมีค่าบริการสืบค้น 200 บาท/ชั่วโมง
  1. ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออนไลน์ ผ่านระบบ E-Filling ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา https://www.ipthailand.go.th/th/
  2. หากยังไม่มี Account User ให้ลงทะเบียนสร้าง User และ Password ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นเข้าสู่ระบบ
  3. ไปที่เมนู “บริการออนไลน์” จากนั้นเลือก “ระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาอิเล็กทรอนิกส์” และล็อกอินให้เรียบร้อย
  4. ไปที่เมนู “Trademark” เลือกแบบฟอร์ม ก. 01 จากนั้นกรอกข้อมูลตามหัวข้อให้ครบ และอัปโหลดเอกสารที่ใช้ยื่นจดทะเบียนให้เรียบร้อย
  5. ระบบคำนวณค่าธรรมเนียมขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
  6. กด “ส่งเรื่อง”
  7. ระบบจะพาไปยังหน้าการชำระเงิน สามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Internet Banking, ตัดบัตรเครดิต/เดบิต, เคาท์เตอร์เซอร์วิสหรือเคาท์เตอร์ธนาคาร
  8. ชำระเงิน และติดตามอัปเดตสถานะคำขอการจดทะเบียนได้ผ่าน “ระบบสอบถามสถานะคำขอสำหรับประชาชน”

ประโยชน์ของการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ดีอย่างไร

ทำไมเจ้าของธุรกิจถึงควรจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า? การจดทะเบียนเทรดมาร์คมีประโยชน์ข้อดีสำหรับการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะอันดับแรกจะทำให้ลูกค้าสามารถจดจำได้ว่าสัญลักษณ์หรือภาพนี้ขายอะไร เป็นสินค้าประเภทไหน และยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้

  • สร้างการรับรู้ (Awareness) และการจดจำให้กับกลุ่มผู้บริโภค
  • ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
  • เพิ่มการต่อยอดของธุรกิจในอนาคต เช่น การสร้างแฟรนไชส์
  • สร้างความแตกต่างในสินค้าที่คล้ายกันในตลาด
  • เพิ่มมูลค่าและคุณค่า (Value) ของสินค้าได้มากขึ้น

โดยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ จะมีผลภายในประเทศเท่านั้น ถ้าหากต้องการให้มีความคุ้มครองในประเทศอื่นที่ต้องการทำธุรกิจด้วย ก็ต้องจดทะเบียนในประเทศนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น ถ้าหากมีธุรกิจในประเทศจีน ก็ต้องทำการจดเครื่องหมายการค้าจีน เป็นต้น

ประเภทเครื่องหมายการค้า แบ่งตามลักษณะการทำธุรกิจ หรือรูปแบบบริษัท

ขอจดเครื่องหมายการค้า

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าก็มีหลายประเภทเช่นกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจที่ต้องการจดทะเบียน โดยจะมีทะเบียนเครื่องหมายการค้า 4 ประเภท

เครื่องหมายการค้า (Trademark) 

เครื่องหมายการค้า (Trademark) เป็นเครื่องหมายซึ่งใช้สัญลักษณ์ที่สื่อถึงสินค้าและธุรกิจ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในสินค้าและเครื่องหมายการค้าของบุคคลหรือธุรกิจอื่น

เครื่องหมายการบริการ (Service Mark)

เครื่องหมายการบริการ (Service Mark) เป็นเครื่องหมายซึ่งใช้สัญลักษณ์ที่สื่อถึงธุรกิจประเภทบริการ เช่น โรงแรม สายการบิน หรือธนาคาร

เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark)

เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) เป็นเครื่องหมายที่สื่อถึงการรับรองในคุณภาพของสินค้าหรือบริการ เช่น เครื่องหมายฮาลาล (Halal) ISO หรือสัญลักษณ์มิชลินในร้านอาหาร

เครื่องหมายร่วม (Collective Mark)

เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) เป็นเครื่องหมายที่ใช้สำหรับกลุ่มรัฐวิสาหกิจหรือธุรกิจในเครือเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน

ประเภทเครื่องหมายการค้าในลักษณะอื่น ๆ มีอะไรบ้าง?

ลักษณะเครื่องหมายการค้า

นอกจากประเภทเครื่องหมายการค้าที่ขึ้นทะเบียนตามลักษณะของธุรกิจหรือบริษัทแล้ว ก็ยังมีประเภทเทรดมาร์คที่เป็นลักษณะอื่น ๆ ได้อีกด้วย ดังนี้

เครื่องหมายเสียง (Sound Mark)

เครื่องหมายการค้าในรูปแบบ “เสียง” จะเป็นเสียงที่ทำให้ผู้บริโภคได้ยินแล้วทราบถึงแบรนด์ได้ โดยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเสียงจะต้องมีจุดเด่น 3 ข้อ ได้แก่ ลักษณะเฉพาะ ไม่ผิดกฎหมาย และไม่เหมือนหรือคล้ายกับ Sound Mark ที่เคยจดทะเบียนไว้แล้ว

เครื่องหมายรูปลักษณ์ (Trade Dress)

เครื่องหมายรูปลักษณ์ (Trade Dress) เป็นเครื่องหมายที่ใช้รูปถ่าย รูปวาดประดิษฐ์ ข้อความ หรือตัวอักษรเพื่อสร้างเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงธุรกิจ หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าโลโก้ การใช้ Trade Dress จะต้องไม่สื่อถึงสิ่งที่สามารถทราบได้โดยทั่วกัน ไม่สื่อถึงสินค้าโดยตรง ต้องใช้สีและการออกแบบโดยเฉพาะ

เครื่องหมายกลิ่น (Smell Mark) 

เครื่องหมายกลิ่น (Smell Mark) เป็นเครื่องหมายโดยใช้กลิ่นสื่อถึงแบรนด์หรือธุรกิจเช่นกัน โดยจะต้องเป็นกลิ่นที่ไม่เป็นกลิ่นธรรมชาติของสินค้า และไม่เป็นกลิ่นที่สื่อถึงสินค้าโดยตรง

ลักษณะของเครื่องหมายการค้าที่จดได้ต้องพิเศษหรือแตกต่างอย่างไร

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ก็จะมีลักษณะที่กำหนดว่าสามารถทำการจดทะเบียนได้เช่นกัน โดยลักษณะที่สามารถจดทะเบียน Trademark ได้ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ต้องมีความเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ ผู้บริโภคสามารถแยกความแตกต่างได้
  • ไม่ใช้คำที่สื่อถึงสินค้า บริการ หรือธุรกิจโดยตรง เช่น ใช้คำว่า Clothes กับเสื้อผ้า
  • ไม่ซ้ำหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่เคยจดทะเบียนไว้แล้ว
  • ไม่มีคำหรือสัญลักษณ์ต้องห้ามตามกฎหมาย เช่น สิ่งลามกอนาจาร ชื่อทางภูมิศาสตร์ ชื่อประเทศ สัญลักษณ์ทางราชการและศาสนา

ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ที่ไหน ต้องไปเองหรือไม่

อาจมีหลายคนที่อยากทราบว่าต้องไปจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าที่ไหน การขอยื่นจดทะเบียนสามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ดังนี้

  • ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าผ่านช่องทางออนไลนฺ์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา
  • เดินทางไปทำเรื่องจดทะเบียนที่สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด
  • ใช้บริการช่วยยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับทางแพลตฟอร์มที่ให้บริการเพียงเตรียมเอกสารและใบมอบอำนาจ
  • เดินทางไปทำเรื่องจดทะเบียนที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาโดยตรง หรือทางไปรษณีย์
  • สำหรับคนที่ทำธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เปิดบริษัทในจีน ซึ่งต้องมีการจดทะเบียนเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าในประเทศจีนด้วย สามารถใช้บริการผู้ที่มีประสบการณ์ในการช่วยยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศให้ดำเนินเรื่องแทนได้

อายุความคุ้มครองของเครื่องหมายการค้า

เมื่อได้ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว เครื่องหมายนั้นจะมีอายุความคุ้มครอง 10 ปี นับจากวันที่จดทะเบียน ซึ่งเมื่อครบกำหนดอายุความคุ้มครองแล้ว สามารถทำการต่ออายุทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ โดยต้องชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุ และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมร้อยละยี่สิบจากค่าธรรมเนียมต่ออายุ ภายใน 3 เดือนก่อนสิ้นอายุ หรือภายใน 6 เดือนหลังจากสิ้นอายุความคุ้มครอง

นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม ดังนี้

  1. การบันทึกข้อตกลงคำยื่นขอต่ออายุ และส่งเอกสารให้ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาหากมีเอกสารตกหล่นบกพร่องภายในระยะเวลาที่กำหนด
  2. การชำระค่าธรรมเนียมไปแล้วนั้นไม่สามารถขอคืนได้
  3. หากยื่นคำขอผ่านระบบ E-Filing จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเงื่อนไขการยื่นคำขอจดทะเบียน
  4. หากมีการมอบอำนาจ ให้เตรียมหนังสือมอบอำนาจให้เรียบร้อย และทำการรับรองต่าง ๆ หากมีการมอบอำนาจในต่างประเทศหรือในประเทศ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
  • กระทำการมอบอำนาจในต่างประเทศ ให้สถานทูตหรือกงสุลไทยเป็นผู้รับรองสำหรับรับรองลายมือชื่อ
  • กระทำการมอบอำนาจในต่างประเทศ ให้หัวหน้าสำนักงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ณ ประเทศที่ทำการมอบอำนาจเป็นผู้รับรอง กรณีรับรองผู้รับมอบอำนาจ

สรุป จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และการรับรู้ที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์หรือธุรกิจ นอกจากนี้ยังเป็นการให้สินค้าที่มีนั้นแตกต่างจากสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นสินค้าประเภทเดียวกันในตลาดอีกด้วย โดยการจดทะเบียนเทรดมาร์คนี้จะมีอายุความคุ้มครอง 10 ปี

การยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ก็สามารถทำได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นขอจดทะเบียนออนไลน์ การไปทำเรื่องโดยตรงที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือใช้บริการช่วยยื่นจดทะเบียนเพื่ออำนวยความสะดวกและประหยัดเวลาก็ได้เช่นกัน


หากกำลังต้องการใช้บริการช่วยยื่นจด Trademark สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับ ATPServe https://www.atpserve.com/ บริษัทรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าครบวงจร พร้อมแคมเปญร่วมกับ PingPong Payments เมื่อจดเครื่องหมายการค้าที่ US จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมมูลค่า 2500 บาท

PingPong Logo
December 13, 2024
PingPong

ประหยัดทั้งเงินและเวลา อย่ารอช้า เริ่มต้นกับเราได้แล้ววันนี้ฟรี!

PingPong Account Manager

บทความที่น่าสนใจ

ข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการเติบโตของธุรกิจของคุณ
Man working at desk

Migrating to Linear 101

Linear helps streamline software projects, sprints, tasks, and bug tracking. Here’s how to get started.
Man pinning images on wall

Building your API Stack

The rise of RESTful APIs has been met by a rise in tools for creating, testing, and managing them.